SAIFON โพสต์ร็อคกับอารมณ์ดนตรีที่เร่าร้อน
หลายเสียงชอบดูพวกเขาเล่นสดๆ บางเสียงบอกว่าอินมากทั้งที่ไม่เคยฟังเพลงไม่เคยรู้จักพวกเขามาก่อน "โคตรมันส์" น่าจะเป็นศัพท์ที่ใช้นิยามความรู้สึกเมื่อได้ดูไลฟ์โชว์ของห้าหนุ่มโพสต์ร็อคจากแดนบูรพานาม "สายฝน" (Saifon)
เสน่ห์ของวงสายฝนอยู่ที่อารมณ์ของเสียงเครื่องดนตรีซึ่งถ่ายทอดผ่านจินตนาการของ ต้าร์-ธนภูมิ ทองกระจ่าง (กีต้าร์), นันท์-อานันท์ สง่าศิลป์ (กีต้าร์), พัด-วรภัทร สุภาพรม (กีต้าร์), พุ-สุทธิพงศ์ สุทธิรักษ์ (เบส) และ คิม-ปริญญา พ่วงประเสริฐ (กลอง) รวมถึงเสียงของต้าร์-ธนภูมิ ซึ่งทำหน้าที่ร้องนำก็เป็นเหมือนเครื่องดนตรีอีกชิ้นหนึ่ง พวกเขาปักหมุดคุณสมบัติข้อนี้มาตั้งแต่ปี 2015 เมื่อครั้งปล่อยสองซิงเกิ้ลแรกบนยูทูปคือเพลง "แค่เพียงเธอ" ในเดือนกรกฎาคม และเพลง "จะไม่มีการหยุด" ในเดือนสิงหาคม ซึ่งตอนนั้น มือกลองคือ แมงมุม-วสุ แก้วไทย
ช่วงฟอร์มวงใหม่ๆ สายฝนนิยามแนวดนตรีของวงว่าเป็น Alternative Post Rock Ambient และแนะนำตัวเองบนเว็บไซต์ Fungjai ว่า "พวกเราเป็นนิสิตจากคณะศิลปกรรมศาสตร์ วิชาเอกดนตรีสากล มหาวิทยาลัยบูรพา แนวเพลงของเราจะหนักออกไปทางดนตรี Ambient ซึ่งเราชอบมากเป็นพิเศษที่ดนตรีแนวนี้จะเล่นกับบรรยากาศรอบๆตัวทำให้พวกเรารู้สึกอินกับเพลงนั้นๆได้มากกว่า อิทธิพลหลักๆก็จะเป็นดนตรี Brit-Pop เช่นวง Radiohead, Foals, Solitude is bliss, Inspirative พวกเราอยู่ที่จังหวัดชลบุรี (บางแสน)"
ตลอดเกือบแปดปีที่่ผ่านมา สายฝนผสมผสานดนตรีหลากหลายแนวเข้ามาในผลงานของพวกเขาไม่ว่าจะเป็นฮาร์ดร็อค ไซคีเดอลิค บลูส์ ฯลฯ แต่ไม่ว่ากลิ่นไอของ Sub-genre จะเป็นสไตล์ไหน สิ่งหนึ่งที่พบในทุกเพลงของพวกเขาคือ "แอมเบียนท์" (Ambient) ซึ่งเป็นแนวเพลงที่เกิดขึ้นช่วงต้นทศวรรษที่ 1920 เน้นรูปแบบเสียงมากกว่าเมโลดี้หรือความไพเราะ ใช้เพื่อสร้างบรรยากาศ สภาพแวดล้อม อารมณ์และสภาวะจิตใจของคนฟัง ถ้าใครมีโอกาสดูสายฝนเล่นสดและไล่จับตามองอิริยาบถของสมาชิกทั้งห้าคน ก็จะพบว่าทั้งต้าร์, นันท์, พัด, พุ และคิม ต่างมีอารมณ์และแสดงออกเหมือนกำลังอยู่ในโลกส่วนตันที่ตัดขาดจากโลกภายนอกกันทุกคน
สายฝนเล่าถึงความหลากหลายของแนวดนตรีของตัวเองว่า "การเปลี่ยนแปลงของแนวดนตรีนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การเปลี่ยนแปลงมันสอดคล้องไปกับวิถีชีวิตของพวกเราแต่ละคนที่ต่างก็เติบโตขึ้น มีกิจกรรมใหม่ๆเข้ามาในชีวิต มีสิ่งให้ต้องคิดต้องรับผิดชอบมากขึ้น จากที่เมื่อก่อนตอนทำวงกันใหม่ๆ เราแทบจะนั่งฟังเพลงด้วยกันทุกวัน ตอนนี้พวกเราก็ไม่ค่อยจะมีเวลาจะทำอะไรแบบนั้นเท่าเมื่อก่อนแล้ว ตอนนี้เวลาที่เราได้แชร์เพลงกันกลายเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่อยู่บนรถขณะเดินทางไปเล่นดนตรีแทน เรื่องนี้เป็นโจทย์ที่เราจะต้องคอยศึกษาคอยแก้กันต่อไปตลอดชีวิตในเส้นทางสายดนตรี แต่แน่นอนเรายังเชื่อว่ามันมีพื้นที่ตรงกลางอยู่เสมอ พื้นที่ที่คอยเปิดรับทุกความเป็นไปได้ใหม่ๆ ประมาณนี้ครับ"
หลังจับกลุ่มดนตรีสายฝน พวกเขาเริ่มเก็บเกี่ยวประสบการณ์จริงตามร้านท่องเที่ยวกลางคืนและเวทีตลาดนัด บางแสน วอล์คกิ้ง สตรีท ที่แหลมแท่น ส่วนใหญ่เป็นเพลงคัฟเวอร์ศิลปินที่พวกเขาชื่นชอบและแทรกผลงานของตัวเองเพื่อเช็คปฏิกิริยาของคนดู หนึ่งในงานที่ทำให้คนบางแสนรู้จักสายฝนอย่างแพร่หลายได้แก่ เทศกาลดนตรีอิสระ Long-Do (ลองดู) ครั้งที่หนึ่งระหว่างเดือนมกราคมและกุมภาพันธ์ 2016 จัดโดยคณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพา ซึ่งสายฝนเป็นหนึ่งในห้าวงที่ขึ้นเวทีวันแรก รวมถึงสองวงอินดี้บางแสนคือ Paracetamol วงเร็กเก้รุ่นพี่ และ NYMPH ซึ่งต่อมากลายเป็น Mind Wanders วงดรีมป๊อป-ชูเกซที่ออกอัลบั้มมาแล้วสองชุด
นอกจาก "สายฝน" ซึ่งถูกแซวว่าน่ามาจากชื่อบุหรี่ยี่ห้อหนึ่ง วงยังรู้จักในอีกชื่อหนึ่งคือ "สายฝน 90" แม้กระทั่งชื่อบัญชีเฟสบุ๊กเพจยังใช้คำว่า Saifon90 พวกเขาเล่าย้อนถึงตอนฟอร์มวงเมื่อกว่าเจ็ดปีที่แล้วว่า
"พวกเราทั้งหมดมาเจอกันที่คณะดนตรีและการแสดง มหาวิทยาลัยบูรพาครับ (หมายเหตุ: ตอนนั้น ดนตรีและการแสดงเป็นส่วนหนึ่งของคณะศิลปกรรมศาสตร์ ก่อนแยกตัวตั้งเป็นคณะ) แล้วก็ทำวงกันขึ้นเพราะพวกเราชอบฟังเพลงแนวเดียวกัน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญมาก ช่วงทำวงใหม่ๆ เราทุกคนแทบจะฟังเพลงเดียวกัน เพลงที่เราต้องแกะมาเล่นจะดังออกมาจากห้องคนนั้นบ้าง ห้องคนนี้บ้าง"
"ส่วนชื่อวงก็เกิดจากวันแรกที่ไปหาร้านเล่นดนตรีกลางคืนแล้วมันเป็นวันที่ฝนตก พวกเราก็เลยขโมยเอาสายฝนมาตั้งเป็นชื่อวง ส่วน 90 นั้นเมื่อก่อนตอนเรามีงานอีเวนท์แรกๆ พี่ชายคนหนึ่งเติม 90 เข้าไปหลังคำว่าสายฝน เราก็เพิ่งเห็นชื่อวง สายฝน 90 ครั้งแรกจากป้ายที่ติดอยู่หน้าร้าน พวกเราว่ามันก็ฟังดูเท่ดีจึงใช้ชื่อ สายฝน 90 มาสักพัก สรุปว่าจริงๆ แล้ววงพวกเราใช้ชื่อ สายฝน มาตั้งแต่แรกเลยครับผม"
สายฝนเล่าถึงชีวิตสมัยวัยรุ่นรวมตัวเล่นดนตรีตามแนวทางที่่พวกเขารักว่า
"ช่วงแรกๆ เอาจริงๆ สำหรับพวกเราคิดว่าเป็นช่วงที่สนุกสนานมากๆ วงสายฝนกลายเป็นพื้นที่ที่ให้เราได้ทดลองเรียนรู้อะไรใหม่ๆมากมาย โดยเฉพาะการเชื่อมโยงอารมณ์ ซึ่งคือองค์ประกอบที่จะขาดไปไม่ได้เลย เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการเล่น พื้นที่ตรงนี้เปิดโอกาสให้เราเติบโตขึ้นในแบบของพวกเราเอง ส่วนร้านที่เล่นแรกๆ สมัยนั้นพวกเราเล่นกันอยู่ที่ร้านชื่อว่า โอลด์สคูล ซึ่งปัจจุบันก็ปิดไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว"
"ร้านโอลด์สคูลเป็นร้านที่เปิดโอกาสให้พวกเราเล่นเพลงที่พวกเราอยากเล่น ซึ่งสิ่งเหล่านั้นก็ผลักดันเรามาจนถึงทุกวันนี้ พวกเรานักดนตรีต้องการพื้นที่ที่เปิดโอกาสแบบนี้อีกมากๆ แต่ดูเหมือนในความเป็นจริงกลับจะมีน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงสำหรับเพื่อนๆที่กำลังทำวงดนตรีกันอยู่แต่ขาดพื้นที่ให้แสดงออก .. ส่วนเพลงที่เล่นๆกันช่วงแรกก็พวกเพลงของ Desktop Error, Radiohead, Solitude is Bliss, Foals, Mattnimare, Summerdress คงสรุปง่ายๆว่าเราเล่นเพลง Alternative Rock และเพลงของพวกเราเอง ประมาณนี้ครับ"
ลองฟัง "แค่เพียงเธอ" หนึ่งในสองเพลงยุคแรกของสายฝน เพลงนี้ถูกอัปโหลดขึ้นยูทูปเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2015
ถ้าใครที่มาดูไลฟ์โชว์ของสายฝนช่วงหลังๆ จะพบว่าพวกเขาผลิตงานมากพอที่จะนำมาเล่นเต็มโชว์และสามารถทำอัลบั้มเต็มได้แล้ว หรืออย่างน้อยคัดสรรแบบเข้มข้นจริงๆก็เต็มอีพีอัลบั้มประมาณห้าเพลง เมื่อถูกถามว่าแฟนๆจะได้เห็นอัลบั้มแรกของสายฝนภายในปีนี้ไหม ก็ได้รับคำตอบกลับมาว่า "ต้องได้เห็นแน่ๆครับ เราเชื่ออย่างนั้น !!!"
ล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา ในงานดนตรีนอกกระแสน SAEN INDIE (แสนอินดี้) ที่ร้าน Bora Bora ริมหาดวอนนภาหรือบางแสนล่าง เพลย์ลิสต์ของสายฝนก็เป็นเพลงของพวกเขาทั้งหมดได้แก่ Men in Black, ทหาร, โหมโรง, ลอง, ระหว่างทาง, แค่เพียงเธอ, คลื่น, รอบกองไฟ
แต่ตอนนี้ แฟนเพลงสามารถดูสายฝนเล่นสดๆหลายคืนต่อสัปดาห์ ซึ่งร้านที่พวกเขาเล่นประจำในโซนบางแสนได้แก่ The Six Taps House (แหลมแท่น) วันเสาร์, Chaiyo (ซอยจรินทร์) วันอาทิตย์ และ UNDER T (ใกล้ตลาดปาร์คอิน) วันจันทร์ เป็นต้น รวมถึงพัทยา สามารถติดตามอัปเดตคิวงานและข่าวความเคลื่อนไหวของสายฝนได้ทางเฟสบุ๊กเพจ https://web.facebook.com/Saifon90
เมื่อเร็วๆนี้ สายฝนได้ปล่อย official audio สองเพลงเหมือนเป็นการอุ่นเครื่องก่อนที่จะได้สัมผัสอัลบั้มแรกของพวกเขา พร้อมโพสต์ข้อความว่า
"ตอนนี้ปี 2023 เรายังคงเดินหน้าในเส้นทางของเรา พวกเรามีความเชื่อว่าดนตรีนั้นโดยตัวมันเองมีพลังขับเคลื่อนสังคม ไปข้างหน้าหรือแม้กระทั่งไปข้างหลัง... ขึ้นอยู่กับผู้สร้างสรรค์ เป็นศิลปะที่อยู่ใกล้กับผู้คน ประชาชน พวกเราทำเพลงเพื่อชีวิต ชีวิตของพวกเราของเพื่อนเราของผู้ที่มองเห็นในสิ่งที่คล้ายกับเรา และเราจะต่อสู้กับทุกสิ่งทุกอย่างที่จะมาหยุดยั้ง ไม่ให้พวกเราได้ทำในสิ่งที่พวกเรารัก สิ่งที่พวกเราเชื่อ พวกเราจะเป็นดั่งคลื่นที่สาดซัดไม่เคยหยุด... และพวกเราก็หวังอยู่ลึกๆ เช่นกันว่าคุณจะเป็นคลื่นที่สาดซัดไม่เคยหยุดเช่นเดียวกับพวกเรา"
คลื่น : สายฝน (Official Audio)
"อย่ายอม ให้ความจริงกลืนทุกสิ่ง
ฉันจะทำ ทำในสิ่งที่ฉันฝัน
อย่าปล่อย ให้ความกลัวเข้ามากลืนกิน
อย่าหยุดนิ่ง จงเดินเข้าไปหามัน
เป็นดั่งคลื่นที่สาดซัดไม่เคยหยุด
เป็นดั่งคลื่นที่สาดซัดไม่เคยหยุด..."
รอบกองไฟ : สายฝน (Official Audio)
"อยากขอคุณอย่างได้ไหม มาเป็นเพื่อนกัน
มาแบ่งปันความหวังข้างใน
มาร่วมก่อกองไฟแห่งค่ำคืน
เรามา ร่วมร้องเพลง ด้วยกัน
ร้องให้ความผิดหวัง นั่นไง
ร้องให้คนที่เขาไม่เคย สนใจ
ร้องให้กับความหวังในใจของเรา"




ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น